วันอังคารที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2551

การวินิจฉัยโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

ประวัติการเจ็บป่วย โรคที่เป็นอยู่ ยาที่ใช้เป็นประจำ ความถี่ของความต้องการทางเพศ ความถี่ของการแข็งตัว ความถี่ของการหลั่ง ข้อมูลเหล่านี้คุณต้องเตรียมไว้สำหรับตอบคำถามแพทย์ การตรวจร่างกาย ลองจับอวัยวะเพศว่ามีการแข็งตัวหรือไม่หากไม่มีการแข็งตัวอาจจะหมายถึงว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเส้นประสาท มีการร่วงของขนอวัยวะเพศหรือไม่หากมีสาเหตุก็อาจจะเกิดจากต่อมไร้ท่อ การวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการณ์ แพทย์จะเจาะเลือดตรวจการทำงานของตับ น้ำตาล ไต ไขมันผลเลือดทั่วไป สำหรับผู้ที่มีความต้องการทางเพศต่ำอาจจะต้องเจาะหาระดับฮอร์โมน testosterone นอกจากนั้นยังต้องสังเกตการแข็งตัวของอวัยวะเพศระหว่างที่หลับหากสามารถแข็งตัวตอนกลางคืนหรือตอนเช้ามืดแสดงสาเหตุน่าจะเกิดจากจิตใจ การรักษา
การรักษาเบื้องต้นต้องกำจัดหรือลดปัจจัยเสี่ยงให้น้อยที่สุด คือจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิตเช่น รับประทานอาหารที่มีกากอาหาร อาหารที่มีไขมันต่ำ ลดเกลือ งดสุรา งดบุหรี่ Psychotherapy การรักษาทางด้านจิตใจหากปัญหากามตายด้านเกิดจากทางด้านจิตใจแพทย์จะช่วยลดความกังวล การใช้ยาในการรักษา Drug Therapy มีทั้งยารับประทาน ยาฉีดหรือยาสอด

วันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ต้นเหตุของโรคเสือมสมรรถภาพทางเพศ



เมื่อพิจารณาถึงต้นเหตุของอาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ (Impotence) พบว่ามาจากสาเหตุต่อไปนี้
1. สาเหตุทางกาย ได้แก่ อายุที่เพิ่มขึ้น โรคประจำตัวบางอย่าง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ หรือแม้กระทั่งโรคหวัดก็อาจนำไปสู่การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้

2. สาเหตุทางจิตใจ ได้แก่ ความเครียดหรือความฝังใจในบางเรื่องจนมีผลแสดงออกทางกาย คือ ทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ


การบำรุงรักษาสุขภาพ ให้ดีทั้งกายและจิตใจ มีหลักปฏิบัติดังนี้คือ อาหาร เลือกรับประทานอาหาร ที่มีคุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ ในปริมาณที่เหมาะสม หลีกเลี่ยงอาหาร กลุ่มที่จะก่อให้เกิดโทษกับร่างกายออกกำลังกาย อย่างสม่ำเสมอพักผ่อน อย่างเพียงพอหลีกเลี่ยง สารที่เป็นพิษต่อร่างกายทั้งจากอาหารที่เราทานเข้าไปและจากสิ่งแวดล้อม รอบตัวเรา
สมุนไพรบางอย่างอาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการบำรุงร่างกายให้แข็งแรงทั้งร่างกาย และจิตใจ, โดยเฉพาะ "โสม" ซึ่งมีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพ ในการบำรุงรักษาสุขภาพให้แข็งแรง ช่วยลดความเครียดของจิตใจและช่วยในการรักษา โรคบางอย่างได้ รวมทั้งช่วยการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้ดีขึ้น เชื่อกันว่าโสมสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศได้และมีการใช้กันมานานนับพันปีในหมู่ ชาวจีนจากการศึกษาวิจัยพบว่าโสมประกอบไปด้วยสารออกฤทธิ์ที่สำคัญ ได้แก่ สาร Ginsenosides ซึ่งมีอยู่ 2 กลุ่มได้แก่Panaxadiols ออกฤทธิ์ในการผ่อนคลาย หรือทางตะวันอออกเรียกว่าฤทธิ์ทาง "หยิน"Panaxatriols ออกฤทธิ์ในการกระตุ้น หรือทางตะวันออกเรียกว่าฤทธิ์ทาง "หยาง"
ทั้ง 2 กลุ่ม จะช่วยให้โสมมีคุณสมบัติในการบำรุงสุขภาพ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ช่วยผ่อนคลายความเครียด เป็นผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ของชาวตะวันตก ที่ยืนยันถึงประสิทธิภาพของโสม ที่ได้รับความเชื่อถือจากชาวตะวันออกมานับพันปี
นอกจากนี้โสมยังมีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคได้หลายชนิด เช่น โรคหัวใจ, เบาหวาน, ความดันโลหิตสูง (ในกรณีที่เป็นโสมสกัดที่สัดส่วนของ Ginsenosides ทั้ง 2 กลุ่ม ที่แน่นอนและเหมาะสม) ช่วยลดไขมันในเลือด ช่วยชะลอความแก่และต้านโรคมะเร็ง
เนื่องจากโสมได้รับความเชื่อถือและมีการใช้กันมานานแล้วในรูปแบบต่าง ๆ โดยไม่มีรายงานถึงผลเสียหรือพิษต่อร่างกาย จึงสรุปได้ว่าโสมมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกาย และปลอดภัยสูง ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์ของโสมหลายรูปแบบ ทั้งที่อยู่ในรูปของ Crude Drug (โสมที่ไม่ได้ผ่านการสกัดแยกสารออกฤทธิ์) และในรูปของสารสกัดโสมมาตราฐาน ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบัน ซึ่งประเภทหลังเราสามารถรู้ปริมาณสารออกฤทธิ์ (Ginsenosides) ที่แน่นอนและอยู่ในสัดส่วนที่เหมาะสม ทำให้เราได้ประโยชน์จากสรรพคุณ ของโสมได้มากที่สุด

นอกจากนี้การป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระ (สารที่เป็นพิษต่อร่างกาย) ทั้งที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย และที่รับจากสิ่งแวดล้อมภายนอกเข้าไป ด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) เช่น B-Carotene Vitamin C, Vitamin E, และ Selenium จะช่วยให้ร่างกาย ปลอดภัยจากอนุมูลอิสระทั้งหลายที่เป็นพิษต่อร่างกาย ทำให้มั่นใจได้ว่าสุขภาพของเรา จะดีทั้งกายและใจ ซึ่งเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาการเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ
ยาตัวใหม่ที่ค้นพบในสหรัฐจะออกฤทธิ์ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้ เป็นการออกฤทธิ์ ที่อวัยวะดังกล่าวโดยเฉพาะเจาะจง ถ้าผู้ใช้ยาดังกล่าวมีสุขภาพที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ก็น่าจะช่วยให้ยาตัวใหม่มีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้นในการแก้ปัญหาการไม่แข็งตัว ของอวัยวะเพศชาย (Eractile Dysfunction) และอาจช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพทางเพศ ของผู้มีปัญหา ทำให้อวัยวะเพศสามารถแข็งตัวได้เองโดยที่ไม่จำเป็นต้องใช้ยาช่วยโดยตลอด ซึ่งจะเป็นผลดีในการลดผลข้างเคียงของยาจากการใช้เป็นระยะเวลานาน ๆ ตลอดจนช่วยในด้านค่าใช้จ่ายของผู้ที่มีปัญหาดังกล่าว

วันพฤหัสบดีที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2551

ความหมายและสถาณการณ์โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ



“โรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศนี้เป็นปัญหาที่เกิดจากความผิดปกติของการแข็งตัวขององคชาติ เริ่มตั้งแต่ไม่แข็ง หรือว่าแข็งเหมือนกัน แต่แข็งไม่เต็มที่ และก็ไม่สามารถสอดใส่เข้าไปในช่องคลอดได้ หรือว่าสอดใส่ได้แต่ว่าไม่สามารถหลั่งน้ำอสุจิได้ ผู้ป่วยก็อาจจะมีความรู้สึกทางเพศลดลงได้ด้วย แล้วก็รู้สึกจะเป็นปัญหาต่อผู้ป่วย โดยผู้ป่วยจะรู้สึกไม่มีความมั่นใจในตนเองเวลาที่จะร่วมเพศ และอาจจะทำให้เกิดปัญหาของครอบครัวได้ เพราะว่าพวกนี้จะต้องขึ้นอยู่กับผู้ที่เรามาร่วมเพศด้วย ก็คือในตัวของผู้หญิงเอง คราวนี้ถ้าสมมุติว่าผู้ชายมีความเสื่อมสมรรถภาพทางเพศตรงนี้ ก็จะทำให้เกิดปัญหาครอบครัวขึ้น”


“สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในรายงานคนที่อายุ 40 – 70 ปี ในประเทศไทยมีคนที่เสื่อมสมรรถภาพทางเพศอยู่ถึง 37 เปอร์เซ็นต์ 1 ใน 3 แต่ว่าที่เจอหมอ มีไม่ถึงร้อยละ 1 เปอร์เซ็นต์ ที่จริงเจอเยอะมาก แต่คนที่เปิดเผยมีน้อย สามารถเป็นได้ทุกคน แต่ว่าคนที่มีความเสี่ยงก็ได้แก่คนที่ อันที่หนึ่งมีอายุสูง อันที่สองคนที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง ก็อย่างเช่น พวกหลอดเลือด และหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน โรคต่อมลูกหมากโต หรือว่าคนที่เคยผ่าตัดอุบัติเหตุ เช่น ผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน ผ่าตัดท่อปัสสาวะ แล้วก็ผ่าตัดไขสันหลัง และนอกนั้นก็จะมีคนที่มีปัจจัยเสี่ยงก็คือ พวกที่กินยาบางตัว แล้วก็พวกสูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายน้อย หรือว่ามีปัญหาทางด้านจิตใจ อย่างเช่น พวกที่มีปัญหาทางด้านสุขภาพจิต เช่น มีอาการซึมเศร้า หรือว่ามีโรคทางจิตประสาท พบโรคนี้ในคนที่มีกลุ่มปัญหาทางด้านจิตใจสูงกว่าคนปกติ”

จากเว็บ www.fm100cmu.com

Google Groups
สมัครสมาชิก Richtimeteam
อีเมล:
เยี่ยมชมกลุ่มนี้